ผู้จัดการทีมหลายคนที่ประสบความสำเร็จในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นจะต้องมีชื่อของโชเซ มูรินโญอยู่ในอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน ซึ่งในขณะที่มีการแข่งขันฟุตบอลเริ่มขึ้นนั้นมูรินโญกับเงียบหายเหมือนไม่มีตัวตนในเส้นทางของฟุตบอลเลย ตั้งแต่ตัวเขาถูกไล่ออกจากการเป็นโค้ชของทีมขวัญใจมหาชน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็กลายเป็นว่าเขาเป็นคนที่ออกจากถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดได้ไม่ดีนักเพราะผลงานของทีมย่ำแย่เป็นอย่างมาก และแฟนบอลส่วนใหญ่ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาไม่เหมาะสมที่จะอยู่กับทีมต่อไปเหตุผลที่แท้จริงคือความคาดหวังที่สูงมากเพราะก่อนหน้านี้มูรินโญมีบารมีอย่างมากในตอนที่เขาอยู่กับทีมเก่าอย่างเชสซี ทำให้เกิดแรงกดดันอย่างมากแล้วกลายเป็นว่าตัวมูรินโญเองคงคิดว่าการตัดสินใจย้ายจากถ้ำสิงโตนำเงินครามน่าจะทำให้เขาประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนคิดมันกลายเป็นว่าทีมล้มเหลวแบบไม่เป็นท่า ปัจจุบันมูรินโญทำงานเป็นนักวิเคราะห์ฟุตบอลให้กับสถานีโทรทัศน์ชื่อดังในอังกฤษ ซึ่งสื่อได้ให้ความคิดเห็นว่ามูรินโญยังคงเจ็บปวดกับการคุมทีมปีศาจแดงอยู่จึงทำให้เขายังไม่สามารถลืมเรื่องนี้ไปได้ แต่ถึงอย่างไรแล้วฝีมือการคุมทีมของเขาก็เป็นที่ต้องการทั้งในระดับสโมสรหรือจะเป็นทีมชาติ ความสามารถของยอดโค้ชที่ได้ชื่อว่าเป็นเดอะสเปเชียลวันนั้นคงไม่มีใครไม่เชื่อในฝีมือการคุมทีมของเขา ในอนาคตข้างหน้าหลายคนมองว่าถ้าให้คิดว่าเดอะสเปเชียลวันผู้นี้จะลงเอ๋ยอย่างไรกับวงการลูกหนัง ไม่แน่ว่าเขาอาจจะกลับไปคุมทีมที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาตั้งแต่แรกคือทีมปอร์โต้ก็เป็นไปได้ อายุของมูรินโญในตอนนี้ก็ 56 ปีแล้ว เป็นสิ่งที่ต้องรอดูด้วยว่าตัวมูรินโญเองนั้นจะเลือกคุมทีมอะไรในช่วงสุดท้ายของการเป็นผู้จัดการทีม ด้วยระยะเวลาที่น้ามูห่างหายไปจากการคุมทีมมันคงเป็นช่วงเวลาที่เขาต้องมาเห็นโค้ชอื่นๆ ประสบความสำเร็จกันอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นเจอร์เก้น คล็อปป์ หรือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เป็นคู่แข่งกับเดอะสเปเชียลมาโดยตลอด เชื่อได้เลยว่าตัวเขาเองคงคิดว่าอยากจะกลับมาคุมทีมให้เร็วที่สุดแต่ด้วยจังหวะมันยังไม่ได้เลยต้องรอต่อไปจนกว่าจะได้ทีมที่ตัวเองอยากคุม ซึ่งคนอย่างมูรินโญนั้นสามารถคุมทีมได้ทุกทีมบนโลกอยู่แล้ว และถ้าตัวเขากลับมาคุมทีมในลีกอังกฤษอีกครั้งรับประกันว่าคู่แข่งมีหนาวมีร้อนแน่นอน เพราะว่าสไตล์บอลที่อาจจะจับทางได้ยากเหมือนกับตอนที่เขาเข้ามาคุมทีมเชสซีในตอนแรก แล้วทำให้ทีมประสบความความสำเร็จจนไม่มีทีมไหนในเกาะอังกฤษสู้ได้เลย
Read more
